นวัตกรรมภูมิปัญญาเศรษฐกิจพอเพียง
นวัตกรรมภูมิปัญญาเศรษฐพอเพียง คืออะไร ?
ความหมาย
นวัตกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง ผลิตภัณฑ์ กระบวนการ
การจัดการ ใหม่ที่คิดค้น และพัฒนาจากองค์ความรู้และประสบการณ์ของชุมชน เพื่อแก้ปัญหา
การประกอบอาชีพ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการเสริมสร้างสุขภาวะอย่างเป็นระบบ
ตามภูมิสังคมของชุมชน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
การดำเนินงาน
จัดทำระบบข้อมูลนวัตกรรม โดยการสืบค้น รวบรวมนวัตกรรมจากทุกจังหวัด
กลั่นกรองจัดทำเครือข่ายและระบบสารสนเทศ เพื่อการเผยแพร่ในรูปแบบเว็บไซต์ ซีดีรอม
และสื่ออื่น ๆ เพื่อเป็นแหล่งความรู้แก่เกษตรกร เจ้าหน้าที่และ บุคคลทั่วไป
การพิจารณาความเป็นนวัตกรรม
1.เป็นผลิตภัณฑ์ กระบวนการ การจัดการ ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน หรือ เป็นผลงาน ที่เป็นผลิตภัณฑ์ กระบวนการ การจัดการ ที่ได้รับการปรับปรุง พัฒนา อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้ผลดีกว่าเดิม
2. ผลงานและ การพัฒนาต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับภูมิสังคมของชุมชน และอยู่บนพื้นฐานคุณธรรม จริยธรรม
3. มีความพึงพอใจของคนในชุมชน และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา
ด้านเศรษฐกิจและสังคม ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
สาขานวัตกรรมภูมิปัญญาเศรษฐกิจพอเพียง
แบ่งออกเป็น 5 สาขา ประกอบด้วย
( 1. )สาขาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ระบบการผลิตการเกษตรที่มีความสอดคล้อง
สัมพันธ์ เกื้อกูลกับ ระบบนิเวศน์และทรัพยากรของแต่ละพื้นที่มีการใช้ปัจจัยการผลิตหมุนเวียน
ภายในฟาร์ม ผลผลิตที่ได้มีความ ปลอดภัยและมีความหลากหลายในแปลงเกษตรเพื่อลดความเสี่ยง
ทางเศรษฐกิจอีกทั้งมีกระบวนการศึกษา ค้นคว้า แลกเปลี่ยนความรู้ จนสามารถมีความรู้
ที่จะถ่ายทอดได้ ทั้งจากรุ่นพ่อแม่ด้วยกัน และรุ่นพ่อแม่สู่รุ่นลูก จำแนกได้ 5 ลักษณะคือ
1.วนเกษตร เป็นระบบการเกษตรที่นำหลักการความยั่งยืนของระบบป่าธรรมชาติ
มาเป็นแนวทาง เน้นการปลูกพืชหลากหลาย ให้ความสำคัญกับพันธ์พื้นบ้าน มีการลงทุนด้านปัจจัย
การผลิต หรือการจัดการน้อย เกี่ยวข้องกับมิติทางสังคมและวัฒนธรรม เช่น สวนสมรมในภาคใต้ เป็นมรดกตกทอดกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าตายาย พบทั่วไปบริเวณพื้นที่ลุ่มริมน้ำหรือที่ราบต่ำ มีพืชหลากหลายชนิดทั้งพืชดั้งเดิมและปลูกเสริมใหม
2.เกษตรผสมผสาน เป็นระบบการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์หลายชนิดในพื้นที่
เดียวกันและใช้ทรัพยากร ในไร่นาอย่างเหมาะสมเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างความสมดุลและ
ความอุดมสมบูรณ์ให้กับ สภาพแวดล้อม ซึ่งสามารถจำแนกได้ตามกิจกรรมหลัก เช่น นาสวน
ผสมผสาน สวนผสมผสาน สวนหลังบ้าน ส่วนใหญ่ระบบเกษตรผสมผสานจะหมายถึงระบบ
การเกษตรที่มี นาข้าวเป็นหลักและมีการปลูกพืชผัก ไม้ผล ไม้ยืนต้น และเลี้ยงสัตว์เพื่อ
ความหลากหลาย
3.เกษตรอินทรีย์ เป็นระบบที่มีเป้าหมายเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมด้วย
การปฏิเสธ การ ใช้สารเคมีสังเคราะห์ทุกชนิดในการผลิต รวมทั้งฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต
ของพืชและสัตว์ ชนิดต่างๆ เน้นการฟื้นฟูระบบนิเวศเกษตรโดยเฉพาะการปรับปรุงดิน
4.เกษตรธรรมชาติ เป็นระบบเกษตรที่ไม่ใส่ปุ๋ย ไม่ไถพรวน ไม่กำจัดวัชพืช ไม่ใช้สารเคมีกำจัด แมลงศัตรูพืช
5.เกษตรทฤษฏีใหม่ตามแนวพระราชดำริ เป็นระบบการเกษตรที่พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงคิดค้นและคำนวณตามหลักวิชาการในการบริหารจัดการทรัพยากร
ในการผลิตในด้านการเกษตร โดยให้เกษตรกรที่มีที่ดินจำนวนน้อย ทำการแบ่งสัดส่วนที่
ทำการเกษตรออกเป็น 4 ส่วนประกอบด้วยพื้นที่
1) แหล่งน้ำ 30%
2) พื้นที่ปลูกข้าว 30%
3) พื้นที่ปลูกไม้ยืนต้น พืชไร่ พืชสวน 30%
4) พื้นที่อยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์และอื่นๆ10 %
( 2.) สาขาการผลิต เทคโนโลยีการผลิตพืช ประมง ปศุสัตว์ ที่ได้รับการปรับปรุง
และพัฒนาการผลิตจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ จนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ
ผลผลิตได้ (ลดต้นทุน เพิ่มปริมาณผลผลิต รักษาคุณภาพ) ประกอบด้วย การปรับปรุงพันธุ์
การจัดการดิน น้ำ ศัตรูพืช วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว การบริหารฟาร์ม การทำแผนธุรกิจการผลิตพืช/ประมง/ปศุสัตว์ โดยแบ่งเป็น 5 สาขา
1.พืชไร่/ข้าว
2.พืชสวน
3.พืชผัก สมุนไพร ไม้ดอก-ไม้ประดับ
4.ประมง/ปศุสัตว์
5.เครื่องมือ-เครื่องจักรกลการเกษตร
(3.)สาขาการแปรรูปและผลิตภัณฑ์ เทคนิค เทคโนโลยีการจัดการผลผลิตเพื่อ
เพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตร แบ่งเป็น 3 ด้านคือ
1.การแปรรูปผลิตภัณฑ์
2.หัตถกรรม ศิลปประดิษฐ์
3.ผ้าและสิ่งทอ
(4.)สาขาสถาบันเกษตรกร เป็นสถาบันเกษตรกรบนหลักการพึ่งพาตนเอง มีระบบบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่พึ่งแก่เกษตรกร ในการแก้ปัญหาการประกอบอาชีพ
ด้านการเกษตร และการยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของสมาชิก ประกอบด้วย 4 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มเกษตรกร
2. กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร
3. กลุ่มยุวเกษตรกร
4. กลุ่มวิสาหกิจชุมชน
( 5. )สาขาปราชญ์เกษตร บุคคล ที่มีการดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแบบอย่างแก่บุคคลทั่วไปได้ มีความสามารถโดดเด่นในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี มีความคิด
ริเริ่มสร้างสรรค์ แก้ปัญหาการประกอบอาชีพ และพัฒนาอาชีพการเกษตรจนประสบผลสำเร็จ
โดยบุคคลประกอบด้วย
1. เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร
2. เกษตรกร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น